3 ยักษ์ใหญ่ไทย-จีน ลุยธุรกิจรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมรายแรก

NYT-อู่ กรุงเทพฯ จับมือ ซิโนเปค เอ็มโอยู กิจการร่วมค้า เดินหน้าธุรกิจรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมแบบ One-Stop Service เล็งงานสัมปทานทยอยหมดอายุในอ่าวไทยช่วง 20 ปีข้างหน้า 

มร.หยาง เฉิง รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิโนเปค อินเตอร์เนชั่นแนล ปิโตรเลียม เซอร์วิส คอร์ปอเรชั่น  เปิดเผยหลังร่วมลงนาม MOU จัดตั้งกิจการร่วมค้าในประเทศไทยระหว่าง บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด และบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) ว่าการลงนามครั้งนี้เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมมาตรฐานสากลในอ่าวไทยแบบครบวงจร (One-Stop Service) รายแรกในประเทศไทย รองรับความต้องการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมที่จะทยอยหมดอายุสัมปทานตั้งแต่ปี 2565 ต่อเนื่องไปอีก 20 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้เพื่อให้บริการรื้อถอนสิ่งติดตั้งในกิจการปิโตรเลียมแบบครบวงจร โดยนำศักยภาพและความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่าย บูรณาการความร่วมมือเพื่อให้บริการรื้อถอนสิ่งติดตั้งในกิจการปิโตรเลียมตลอดทั้งกระบวนการ ในรูปแบบของ One-Stop Service ครอบคลุมตั้งแต่การปิดหลุมผลิต การเคลื่อนย้ายโครงสร้างของสิ่งติดตั้งปิโตรเลียมจากอ่าวไทยมายังฝั่งและทำการแยกชิ้นส่วน และการกำจัดกากของเสียอุตสาหกรรม โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากล รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามธุรกิจการให้บริการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต จากความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทยในครั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจดังกล่าวให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ทางบริษัทฯจะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านวิศวกรรมปิโตรเลียมที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกของ Sinopec Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี แบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีจุดแข็งในการติดตั้งและรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมในทะเลที่ได้มาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับ และความพร้อมในด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์ที่ทันสมัย นำมาพัฒนาและยกระดับการให้บริการธุรกิจนี้ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

ด้านนายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT เปิดเผยว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจที่ดี และจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคต สอดรับกับพันธกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นพัฒนาบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีมาตรฐานระดับโลก รวมถึงการขยายบริการให้ครอบคลุมการดำเนินงานในธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามจากศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจร (ท่าเทียบเรือ A5 และ C0) ทั้งการให้บริการท่าเทียบเรือและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงเป็นผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บสินค้าและคลังสินค้าบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จะมีส่วนสนับสนุนสำคัญต่อธุรกิจรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมในครั้งนี้ และจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) กับอีก 2 หน่วยงานพันธมิตรในด้านปิโตรเคมีในประเทศไทย

ที่มา : https://www.posttoday.com/economy/news/680477