"เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน" รุกตลาดหลังคาโซลาร์ ตั้งเป้ารวมโต 300%





‘เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน’ เดินเกมรุกตลาดหลังคาโซลาร์ ตั้งเป้ารวมโต 300% ชูกลยุทธ์ Partnership Integration สะท้อนภาพผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผนึก 3 กลุ่มพาร์ทเนอร์ ย้ำความมั่นใจด้านคุณภาพ สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือชั้น และเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น นำเสนอโซลูชันใหม่ SCG Solar Roof ระบบ Hybrid ครั้งแรก ที่ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ได้ทั้งวันทั้งคืน ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า สูงสุด 60% ต่อเดือน เดินเกมรุกขยายตลาด Residential Solar Market เพิ่มขึ้น 300% ในสิ้นปี 65

 “เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” ชูภาพลักษณ์ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีหลังคาโซลาร์
ของประเทศไทย สร้างฐานตลาดด้วยกลยุทธ์ Partnership Integration ผสานความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของบริษัทกับจุดแข็งของ 3 กลุ่มพาร์ทเนอร์ศักยภาพ ย้ำความมั่นใจด้านคุณภาพ สร้างโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น และสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิ ด้านเทคโนโลยี ร่วมกับบริษัทชั้นนำระดับโลก ทั้ง Huawei และ Enphase ยกระดับนวัตกรรมหลังคาโซลาร์ ด้านไฟแนนซ์ ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำของไทย จัดทำข้อเสนอพิเศษเพื่อการเป็นเจ้าของที่ง่ายขึ้น และหน่วยงานภาครัฐ โดยได้ร่วมมือการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขออนุญาตให้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอโซลูชันใหม่ SCG Solar Roof ระบบ Hybrid ตอบสนองเทรนด์ความต้องการลดค่าไฟของคนยุคปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์ได้ทั้งวันทั้งคืน
พร้อมเดินเกมรุกขยายตลาดเจาะกลุ่ม Residential Solar Market เพิ่มขึ้น 300%

นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า “เอสซีจี”
มุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชัน ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของลูกค้า ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เราได้นำแนวทางเรื่องมาตรฐานการดำเนินธุรกิจระดับโลก อย่าง ESG (Environmental, Social and Governance) เป็นกรอบการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันใหม่ๆ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ เพื่่อสร้างสรรค์โซลูชันและคุณภาพชีวิตที่ดีในวันนี้ และส่งต่อโลกที่ดียิ่งขึ้นให้คนรุ่นต่อไป ยิ่งปัจจุบันมนุษย์มีความต้องการและความใกล้ชิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากขึ้น ดังนั้น เรายิ่งต้องจำเป็นพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชัน
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่มากขึ้นได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม”

นายธงชัย โสภณ Head of Housing Products Business บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด กล่าวว่า “ภายใต้สถานการณ์
โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายองค์กรต่างเลือกใช้การทำงานแบบไฮบริด หรือเน้นการทำงานแบบ
Work from Home มากขึ้น แน่นอนว่าส่งผลโดยตรงกับการเพิ่มปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก
ที่ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและไลฟ์สไตล์ หรือหาโซลูชันเพื่อ
ลดค่าใช้จ่ายและประหยัดการใช้พลังงาน "เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน" ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระบบหลังคาโซลาร์
สำหรับกลุ่มงานบ้านและที่อยู่อาศัย มีความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและผนึกความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มี
ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ “Partnership Integration” เพื่อสะท้อนภาพผู้นำผ่านการนำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับการสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่การเป็นโซลูชันพลังงานสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง ล่าสุดร่วมมือกับ 3 กลุ่มพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของระบบหลังคาโซลาร์ในประเทศไทยขึ้นไปอีกระดับ ด้านเทคโนโลยี ได้ร่วมมือกับ หัวเว่ย (Huawei) เพื่อนำที่สุดของนวัตกรรมแบตเตอรี่มาเพิ่มความสามารถในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ในช่วงเวลากลางคืน และร่วมมือกับ เอนเฟส เอ็นเนอร์จี้ (Enphase Energy) ผู้นำด้านเทคโนโลยีไมโครอินเวอร์เตอร์ (Microinverter) สหรัฐอเมริกา ร่วมนำเอาเทคโนโลยี
ไมโครอินเวอร์เตอร์ มาช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบโซลาร์ให้ดียิ่งขึ้น ด้านไฟแนนซ์ ได้ร่วมมือกับ สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกและความคุ้มค่าด้านต่างๆ ให้กับลูกค้า เพื่อเปิดรับประสบการณ์
ที่เหนือชั้น และเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และ
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการดำเนินการขออนุญาตให้รวดเร็วมากขึ้น

"เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน” แบ่งเป็นกลุ่ม B2B (SME) 70% และ B2C 30% โดยตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำ
ด้าน Residential Solar Market อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายเพื่อตอบความต้องการของลูกค้า โดยนำเสนอโซลูชันใหม่ “SCG Solar Roof ระบบ Hybrid” ทางเลือกใหม่ที่มาตอบโจทย์เจ้าของบ้านและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน ที่มองหาวิธีการใช้พลังงานไฟฟ้าให้คุ้มค่าทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงให้ความสนใจในเรื่องของพลังงานสะอาดมากขึ้น โดย “SCG Solar Roof ระบบ Hybrid” เป็นการผสานข้อดีของระบบ On grid ที่ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงเวลากลางวัน ผสานเข้ากับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่จะกักเก็บไฟฟ้าเพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้ในช่วงเวลากลางคืน ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ฟรีๆ ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน และสามารถเป็นระบบไฟฉุกเฉินสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญของบ้านได้