สถาบันปิโตรเลียม แนะทางออกพลังงานไทยเร่งเปิดสำรวจปิโตรเลียม ฝ่าวิกฤตปัญหารัสเซีย-ยูเครน

สถาบันปิโตรเลียม ห่วงไทยสูญเงินนำเข้า LNG แพงขึ้นหลักแสนล้านบาทต่อปี หนุนรัฐเร่งเปิดประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ชดเชยสำรองก๊าซเหลือใช้ 7 ปี

     ดร.คุรุจิต นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความตึงเครียดและอ่อนไหว ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานทั่วโลก ทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติผันผวน ส่งผลต่อต้นทุนพลังงานของประเทศ เพราะไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่ได้นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียโดยตรง แต่ก็ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ยิ่งกว่านั้นจากปริมาณการผลิตก๊าซจากอ่าวไทยที่ลดลงติดต่อกันมาหลายปี ทำให้ไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติในรูปของ LNG เพิ่มมากขึ้นด้วยปัจจุบันราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงเกินกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ ขณะที่ราคาตลาดจรของก๊าซธรรมชาติเหลว (Spot LNG) ปรับตัวแพงขึ้นอยู่ที่ 35 เหรียญต่อล้านบีทียู โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ไทยมีปริมาณนำเข้า LNG รวมมากกว่า 10 ล้านตัน/ปี
     ทั้งนี้ ปริมาณสำรองที่ใช้ได้เหลืออีกเพียงไม่ถึง 7 ปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเข้าขั้นวิกฤตสำหรับศักยภาพการค้นพบปิโตรเลียมในประเทศไทย ทั้งบนบกและในอ่าวไทย ยังถือว่ามีศักยภาพพอสมควรในการพบและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม อันจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศได้ ถึงแม้จะไม่ได้มีแหล่งผลิตขนาดใหญ่เหมือนประเทศตะวันออกกลาง ที่สามารถผลิตปิโตรเลียมได้ในปริมาณมากก็ตาม แต่ก็จะช่วยให้ไทยไม่ต้องนำเข้าปิโตรเลียมในราคาแพงได้จำนวนหนึ่งรวมทั้งจะมีรายได้ในรูปภาษีและค่าภาคหลวงจากการผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ไม่ต้องเสียเงินตราให้กับต่างประเทศในการนำเข้าพลังงานเหมือนทุกวันนี้

ที่มา  : https://www.posttoday.com/economy/news/677390