ท่าฉาง ชูโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพิ่มกำลังผลิต 10,193 เมกะวัตต์ ในปี 2573

   บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ พร้อมรุกขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพ กำหนดเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่จากพลังงานทดแทนอีก 10,193 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีและความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต

   บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (TGE) เผยพร้อมขยายการเติบโตไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะชุมชน และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 2 ประเภท ได้แก่
1) โรงฟ้าชีวมวล จากวัตถุดิบหลักประเภททะลายปาล์มเปล่า เส้นใยปาล์ม และจากการเกษตรกรรม เช่น ไม้ชิพ รากไม้สับ เป็นต้น
2) และ 2) โรงไฟฟ้าขยะชุมชน
    ทำให้บริษัทจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตของความต้องการใช้พลังงานในประเทศ และนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทนจากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตามแนวทาง Green Energy หรือ พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
   ทั้งนี้ ธุรกิจของบริษัทเป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์ของโลก และสอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทน ซึ่งจากแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดภายใต้แผนพัฒนาการกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย 2018 ปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Revision 1) ฉบับล่าสุด กำหนดเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เป็นจำนวน 10,193 เมกะวัตต์ โดยเน้นการจ่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
    ดังนั้น จะทำให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในประเทศไทยจะเพิ่มเป็น 34.23% ภายในปี 2573 เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยกระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศจะสูงสุด (Peak) ในปี 2580 ที่ 53,997 MW หรือคิดเป็นพลังงานไฟฟ้า 367,458 ล้านหน่วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนั้นส่งผลบวกต่อธุรกิจผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงพลังงานทางเลือก เช่น ขยะชุมชน ก๊าซชีวภาพ และเชื้อเพลิงชีวมวล ฯลฯ ที่เข้ามาทดแทนแหล่งพลังงานดั้งเดิมอย่างถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลงในอนาคต

อ้างอิง : https://bit.ly/36ZxLxP