นโยบายการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ : ตอนที่ 4 : ทำไมต้องเปิดเสรีก๊าซ
นโยบายการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ
__________________________________
ตอนที่ 4 : ทำไมต้องเปิดเสรีก๊าซ
กรอบแนวคิดและเป้าหมาย แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2561 - 2580 (Gas Plan 2018) เป็นการวางแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอกับความต้องการใช้ของประเทศในราคาที่เป็นธรรม รวมทั้ง บริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพ รองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม โดยคำนึงถึงสมดุลสิ่งแวดล้อม โดยวางเป้าหมายการดำเนินงานใน 4 ด้านสำคัญ ประกอบด้วย
(1) ส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ
(2) เร่งรัดการสำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งปิโตรเลียมภายในประเทศ พื้นที่พัฒนาร่วม และพื้นที่ทับซ้อน
(3) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติให้เหมาะสมและเพียงพอกับความต้องการใช้ในระดับ ภูมิภาค รวมทั้งใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
(4) ส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ
เป้าประสงค์ของ Gas Plan 2018 เพื่อบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนทางด้านพลังงาน เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ให้มีเสถียรภาพและทำให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง รวมทั้งสามารถเพิ่มมูลค่าก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยได้ จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Regional LNG Hub จะช่วยผลักดันให้เกิดการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงสะอาดซึ่งจะช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ จากกรอบแนวคิด เป้าหมาย และเป้าประสงค์ของ Gas Plan 2018 สามารถวางแผนดำเนินงาน โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน และหน่วยงานรับผิดชอบ
- เปิดเสรีก๊าซ ระยะที่ 1 : การทดสอบนำเข้า LNG แบบ Spot ของ กฟผ.
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้เห็นชอบหลักการและแนวทางการดำเนินงานระยะที่ 1 โครงการนำร่อง และรับทราบหลักการและแนวทางการดำเนินงานระยะที่ 2 และระยะที่ 3 โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาการดำเนินการเพื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 และให้นำกลับมานำเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และ กพช. พิจารณาให้ความเห็นชอบตามลำดับต่อไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2562 กบง. ได้เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทดสอบนำเข้า LNG แบบตลาดจร (Spot) จำนวน 2 ลำเรือ ปริมาณรวมไม่เกิน 200,000 ตัน ซึ่งเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 และวันที่ 21 เมษายน 2563 กฟผ. ได้นำเข้า LNG แบบ Spot 2 ลำเรือ ปริมาณ 65,000 ตันต่อลำเรือ โดยนำก๊าซที่แปรสภาพแล้วไปใช้ในโรงไฟฟ้าบางปะกงชุดที่ 5 โรงไฟฟ้าวังน้อยชุดที่ 4 และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ชุดที่ 4 และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้รายงานผลการนำเข้าให้ กบง. รับทราบแล้วเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563
ที่มา
: http://www.eppo.go.th/.../public.../PDF/Gasplan2018.pdf
: http://www.eppo.go.th/.../com.../k2/item/16386-cepa-prayut21
#สำนักงานกกพ.
#ErcFocus